การทดสอบเหล็กเส้น

ทดสอบคุณสมบัติทางกล

ในมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 24-2559 เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กข้ออ้อย ได้กำหนดคุณสมบัติทางกลของเหล็กเส้นก่อสร้างเอาไว้ คือ ความต้านแรงดึง, ความต้านแรงดึงที่จุดคราก, ความยืด, การดัดโค้ง และมวลระบุ ซึ่งโดยปกติเวลาที่ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าเหล็กเส้นก่อสร้างจากร้านค้าแล้วนั้น ผู้บริโภคบางส่วนจะทำการสุ่มตัวอย่างเหล็กที่ซื้อเพื่อนำไปส่งทดสอบทางกลกับห้องปฏิบัติการทดสอบที่ผู้บริโภคเชื่อถือ ซึ่งโดยมากมักเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบตามมหาวิทยาลัยในจังหวัดนั้นๆ และปัญหาที่มักจะพบตามมาคือผู้บริโภคไม่เข้าใจผลทดสอบที่ได้รับมา ซึ่งปัญหานี้มีจากหลายสาเหตุ ดังนี้

มาตรฐานอ้างอิง

ห้องทดสอบแต่ละแห่งใช้มาตรฐานการทดสอบไม่เหมือนกัน เช่น บางแห่งทดสอบตามมาตรฐาน ASTM, บางแห่งทดสอบตามมาตรฐาน JIS ฯลฯ ซึ่งการทดสอบเหล็กเส้นก่อสร้างของไทยนั้น กำหนดให้ใช้มาตรฐานการทดสอบตาม มอก. ดังนั้นผู้บริโภคต้องระบุให้ชัดเจนว่าต้องการให้ห้องปฏิบัติ การทดสอบทำการทดสอบสินค้าตามมาตรฐาน มอก. เท่านั้น เพื่อนำผลการทดสอบมาใช้ยืนยันคุณภาพของสินค้าได้

ข้อมูลไม่ครบถ้วน

ใบรายงานผลการทดสอบไม่รายงานค่าบางตัวหรือรายงานเป็น NA ซึ่งโดยมากมักพบในรายงานผลทดสอบความยืดหรือความต้านแรงดึงที่จุกคราก โดยความยืดจะเกิดจากการที่ชิ้นงานขาดนอกช่วงความยาวพิกัดที่ทำไว้ (gauge length) ทำให้ไม่สามารถรายงานได้ แก้ไขโดยผู้ทดสอบต้องทำเครื่องหมายความยาวพิกัดไว้หลายๆช่วง เพื่อป้องกันชิ้นงานขาดนอกช่วงความยาวพิกัด ในส่วนของความต้านแรงดึงที่จุดครากจะเกิดจากชิ้นงานไม่มีจุดครากที่ชัดเจนทำให้ไม่สามารถอ่านค่าได้ ซึ่งตาม มอก.ระบุว่าในกรณีนี้ให้ใช้ความเค้นพิสูจน์ที่ความยืดร้อยละ 0.2 แทนค่าความต้านแรงดึงที่จุกครากในการรายงานผล (อยู่ในหมายเหตุท้ายข้อ 8.2.4.3 ของ มอก. 24-2559)

หน่วยวัด

หน่วยที่ใช้ในรายงานผลการทดสอบต่างไปจากหน่วยที่ใช้ในมาตรฐาน เช่นความต้านแรงดึง ตามมาตรฐาน มอก.มีหน่วยเป็น MPa  แต่ในรายงานผลการทดสอบใช้หน่วยเป็น kcs หรือ kg/mm2 ซึ่งผู้อ่านผลต้องแปลงให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อนจึงจะนำมาเทียบกันได้ หรือต้องแจ้งห้องปฏิบัติทดสอบให้รายงานผลเป็นหน่วยที่ต้องการตั้งแต่ก่อนส่งชิ้นงานทดสอบ ดังนั้นเพื่อความถูกต้องของผลทดสอบ ก่อนที่จะนำส่งชิ้นงานไปทดสอบ ผู้บริโภคควรสอบถามผู้รับบริการทดสอบให้แน่ใจก่อนว่าใช้วิธีทดสอบตาม มอก. หรือไม่ รวมถึงการรายงานผลต่างๆ ทำตามข้อกำหนดใน มอก. หรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นเมื่อได้รับผลทดสอบกลับมา หรือสอบถามผู้ทำการทดสอบเมื่อมีข้อสงสัยในผลการทดสอบที่ได้รับ