4 ข้อรู้ทันผู้รับเหมาเรื่องงานเหล็กเสริมคอนกรีต

หากกล่าวถึงงานก่อสร้างบ้านหรืออาคารโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เหล็กเส้นเสริมคอนกรีตถือเป็นวัสดุหลักที่สำคัญที่ทำให้โครงสร้างแข็งแรง เนื่องจากวัสดุเหล็กถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงกว่าวัสดุอื่นๆ เป็นเหตุให้ ผู้รับเหมาบางรายที่ต้องการลดต้นทุนถือโอกาสในการลดสเปคเหล็กได้ โดยวันนี้จะมาดูข้อควรระวังเบื้องต้นในเรื่องงานเหล็กสำหรับเจ้าของบ้านหรือเจ้าของโครงการ ที่ผู้รับเหมามักใช้วิธีลดสเปค ดังนี้

  1. ใช้เหล็กที่ไม่มี มอก.

บางครั้งผู้รับเหมาเลือกใช้เหล็กที่ไม่มี มอก.รองรับ ซึ่งราคาถูกกว่า เหล็กเหล่านี้โดยทั่วไปจะมีขนาดน้ำหนักและคุณสมบัติในการรับแรงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น  ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างลดน้อยลง

  1. ใช้เหล็กไม่ตรงกับขนาด หรือจำนวน ตามแบบก่อสร้าง

การลดขนาดและจำนวนเหล็กลงเพื่อลดต้นทุน เช่นแบบก่อสร้างกำหนดให้ใช้เหล็กเส้นข้ออ้อย ขนาด 16 มิลลิเมตร หรือ DB16 แต่ผู้รับเหมาเลือกใช้เหล็กขนาด 12 มิลลิเมตร แทน หรือ ลดจำนวนการใช้เหล็กลงจาก 6 เส้นเหลือ 4 เส้น เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าความแข็งแรงของโครงสร้างก็ลดลงไปด้วย ก่อให้เกิดปัญหาโครงสร้างทรุดตัว อาจะถึงขั้นพังหรือถล่มลงมาได้

  1. ขอเปลี่ยนขนาดเหล็ก

ในกรณีผู้รับเหมาขอเปลี่ยนเหล็กที่ใช้ที่ไม่ตรงตามแบบก่อสร้าง จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ออกแบบที่เซ็นอนุมัติแบบก่อสร้างก่อน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงมีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างเสมอ ซึ่งกรณีนี้อาจจะเกิดขึ้นได้เช่น ในขณะนั้นเหล็กบางขนาดไม่สามารถหาซื้อได้ การเลือกใช้เหล็กเกรดเดียวกันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทดแทนก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้งานก่อสร้างไม่ติดขัด

  1. ใช้เหล็กเส้นกลมแทนเหล็กข้ออ้อย

แม้จะเป็นเหล็กที่มีขนาดที่เท่ากัน เหล็กเส้นกลม ไม่สามารถใช้ทดแทนเหล็กเส้นข้ออ้อยได้ เนื่องจากเหล็กเส้นกลมไม่มีครีบบั้งที่ช่วยยึดเกาะคอนกรีต และมีความสามารถในการรับแรงน้อยกว่าอย่างมาก โดยเหล็กเส้นกลม เกรด SR24 มีความสามารถในการรับแรงได้น้อยกว่าเหล็กเส้นข้ออ้อยเกรด SD40 ถึง 40% ซึ่งโดยปกติแล้วเหล็กเส้นกลมจะใช้เสริมในส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างหลัก เช่น เหล็กปลอกเสา-คาน, เหล็กลูกขั้นบนได, เหล็กพื้น เป็นต้น

วิธีป้องกันปัญหาผู้รับเหมาลดสเปคเหล็กเส้น

  • ตรวจสอบเหล็กที่ใช้ว่าเป็นเหล็ก มอก หรือไม่

เราสามารถเชคเหล็ก มอก. ได้เบื้องต้นคือ ให้ดูที่ป้ายสินค้าให้มองหาสัญญลักษณ์ มอก. ดูที่ตัวนูนบนเนื้อเหล็กซึ่งจะแสดงชื่อ ตราสินค้า เกรด ขนาด อย่างชัดเจน หรือเลือกเหล็กแบรนด์ที่ท่านเชื่อมั่น เช่นเหล็ก ทาทาทิสคอน บกส เหล็ก มอก.ที่ทุกคนมั่นใจ

  • ตรวจจากรายการวัสดุ หรือ BOQ

BOQ หรือใบแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่าย ซึ่งถูกแนบมากับสัญญาก่อสร้าง โดยจะแสดงขนาดเหล็กและจำนวนไว้ ซึ่งช่วยในการตรวจสอบเบื้องต้นได้ ว่าเหล็กที่สั่งมาใช้งานจริงมีขนาด หรือจำนวนตรงตาม BOQ หรือไม่ เหล็กถูกนำไปใช้ครบตามจำนวนหรือไม่

  • เลือกผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้

การเลือกผู้รับเหมาที่ดีมีประสบการณ์ มีผลงานอ้างอิง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน ช่วยให้เจ้าของบ้านไว้วางใจได้ระดับหนึ่ง ว่าจะได้งานที่มีคุณภาพดี การเลือกผู้รับเหมาที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียวมีโอกาสที่ผู้รับเหมาจะหาวิธีลดต้นทุนมากเกินไปจนก่อให้เกิดความเสียหายในงานก่อสร้างได้

  • มีวิศวกรควบคุมงานก่อสร้าง

เนื่องจากการก่อสร้างบ้านถือว่ามีรายละเอียดต่างๆ ค่อนข้างมาก การมีวิศวกรควบคุมงานมาช่วยดูในระหว่างการก่อสร้าง ถือเป็นตัวช่วยลดภาระเจ้าของบ้านได้ ทั้งการ ควบคุม ตรวจสอบวัสดุ และ กระบวนการก่อสร้าง ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกต้อง เพื่อคุณภาพงานที่ดีและปลอดภัย

  • ซื้อเหล็กเอง

เจ้าของบ้านอาจเลือกที่จะซื้อวัสดุก่อสร้างบางส่วนเอง เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ตรงตามสเปคที่ต้องการ โดยตกลงกับผู้รับเหมาตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ซึ่งปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายมากขึ้น ผลิตภํณฑ์เหล็กเส้นสามารถซื้อหาได้ทั่วไปผ่านช่องทางหลากหลาย อาทิเช่น ร้านขายวัสดุก่อสร้าง Modern trade หรือสั่งออนไลน์ ผ่าน Baan Click Build ซึ่งอาจจช่วยลดต้นทุนค่าก่อสร้างได้อีกด้วย