เหล็กไม่ได้ มอก. และวิธีการสังเกตุ
เหล็กเบา
ข่าวเรื่องเหล็กเบาระบาดในช่วงที่ผ่านมา อาจจะทำให้หลายคนมีคำถามขึ้นในใจว่า เหล็กเบาคืออะไร จะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนคือเหล็กเบา แล้วการนำเหล็กเบาไปใช้งานจะส่งผลอย่างไรบ้าง
จริงๆแล้วคำว่าเหล็กเบาจะใช้เรียกเหล็กที่มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน มอก. ไม่มีการควบคุมคุณภาพที่เพียงพอ และคุณสมบัติไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในงานก่อสร้าง เช่น เหล็กขนาด 12 มม. แต่ในความเป็นจริงมีขนาดเพียง 10 มม. เท่านั้น การที่เหล็กมีขนาดเล็กลงย่อมส่งผลให้เหล็กรับแรงได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้โครงสร้างไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ และอาจเกิดการพังทลายได้
เหล็กรีดซ้ำ
เหล็กรีดซ้ำคือกระบวนการผลิตเหล็กเส้นโดยใช้เหล็กรูปพรรณ เหล็กรางรถไฟ เหล็กแผ่นต่อเรือ มาตัดเป็นเส้นๆ แล้วนำมารีดขึ้นรูปเป็นเหล็กเส้น โดยไม่ผ่านการหลอมใหม่ ซึ่งในอดีดเหล็กประเภทนี้มี มาตรฐานรองรับคือ มอก. 211-2527 แต่ได้ถูกยกเลิกไปในปี 2543 เนื่องจากประเด็นคุณภาพที่ไม่คงที่ ควบคุมค่าเคมีไม่ได้ ค่าทางกลเช่นความต้านทานแรงดึง การยืดตัว ไม่สม่ำเสมอ ทำให้โครงสร้างอาคารไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ปัจจุบันเหล็กรีดซ้ำถือเป็นเหล็กที่ผิดกฎหมายไทยไม่สามารถนำมาใช้ในงานโครงสร้างได้
วิธีสังเกตุเหล็กเบา
การสังเกตเบื้องต้นว่าเหล็กเบาหรือไม่ ให้สังเกตที่เนื้อเหล็ก เพราะโดยทั่วไปเหล็กที่ได้ มอก. จะต้องมีชื่อผู้ผลิตหรือเครื่องหมายการค้าที่เนื้อเหล็ก รวมถึงมีชื่อขนาดและชั้นคุณภาพ วิธีชั่งน้ำหนักของเหล็ก โดยตัดเหล็กยาว 1 เมตรนำไปชั่งน้ำหนัก เหล็กเบาจะมีน้ำหนักต่ำกว่าช่วงน้ำหนักที่ มอก. กำหนดอย่างมาก (โดยปกติจะพบว่ามีน้ำหนักต่ำกว่า 10% ขึ้นไป) สุดท้ายคือการส่งทดสอบทางกลกับห้องทดสอบที่เชื่อถือได้ ซึ่งผลทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ มอก. กำหนด
วิธีสังเกตุเหล็กรีดซ้ำ
เหล็กรีดซ้ำจะไม่มี มอก. รองรับ ดังนั้นจึงไม่สามารถแสดงเครื่องหมาย มอก. บนป้ายสินค้าได้ น้ำหนักอาจจะเบากว่าที่มาตรฐานกำหนด อาจจะไม่มีชื่อผู้ผลิตบนเนื้อเหล็กหรือเป็นผู้ผลิตโรงเล็ก หากไม่แน่ใจว่าเหล็กที่จะซื้อเป็นเหล็กรีดซ้ำหรือไม่ ให้เลือกเหล็กที่ผลิตจากเหล็กโรงใหญ่หรือยี่ห้อที่เชื่อถือได้ก่อน